เที่ยวโรแมนติกหัวใจที่ ปางอุ๋ง สวิตเซอร์แลนด์แห่งเมืองไทย
พูดถึงเมืองสงบกลางขุนเขาอย่างแม่ฮ่องสอน นอกจากเมืองปายแล้ว หลายคนคงคิดถึงปางอุ๋ง ใครที่เคยสัมผัสปางอุ๋มมาแล้ว ก็ล้วนแล้วแต่อยากกลับไปเยือนอีกครั้งแทบทั้งนั้น เพราะบรรยากาศของทะเลสาบกลางขุนเขาที่โอบล้อมด้วยหมู่ต้นสนใหญ่น้อยนั้นช่างแสนโรแมนติก ยิ่งไปหน้าหนาวด้วยแล้วล่ะก็คงจะประทับใจใครหลายคน ความสวยงามและบรรยากาศที่แสนโรแมนติกของที่นี่ ทำให้ปางอุ๋งมีฉายาไม่ว่าใครได้ยินก็ต่างต้องพยักหน้าเห็นด้วย ?สวิตเซอร์แลนด์เมืองไทย?
ทะเลสาบปางอุ๋มยามเช้า
ปางอุ๋งที่เรารู้จักกันนี้ มีชื่อเรียกทางการว่า โครงการพระราชดำริปางตอง ๒ เป็นโครงการพระราชดำริในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวค่ะ โดยพระองค์มุ่งพัฒนาชีวิตความเป็นอยู่ของราษฎรชนกลุ่มน้อยบริเวณนั้น พร้อมทั้งส่งเสริมอาชีพทางเลือก ยุติการทำลายป่า และปลูกพืชเสพติด อย่างที่ทุกคนคงพอจะรู้ คำว่า ปาง หมายถึง สถานที่พำนักอาศัยของผู้ทำงานในป่า แล้วคำว่า อุ๋ง ล่ะ คืออะไรกัน… คำว่า อุ๋ง เป็นภาษาถิ่นเหนือ ใช้เรียกพื้นที่ลักษณะคล้ายแอ่งกระทะ และมีแหล่งน้ำอยู่ ซึ่งเป็นลักษณะเดียวกับพื้นที่บริเวณนี้
หมอกสีขาว อากาศเย็นๆ
ปางอุ๋งมีลักษณะเป็นอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ในเขตภูเขา มีต้นสนขึ้นอยู่หนาแน่นโดยรอบ ในฤดูหนาวจะมีอากาศหนาวเย็นมาก และมีหมอกในตอนเช้า ยามแสงอาทิตย์แรกของวันส่องกระทบท้องน้ำในทะเลสาบ จะเห็นไอหมอกจางๆ ลอยเรี่ยผิวน้ำ ประสานกับลำแสงสีส้มทองที่ทำให้ท้องน้ำและแนวป่าดูมีชีวิตชีวาขึ้นมาทันตาเห็น นักท่องเที่ยวนิยมมาที่นี่เพื่อตั้งเต็นท์สัมผัสอากาศหนาวเย็นในช่วงหน้าหนาว ทำกิจกรรมล่องแพไม้ไผ่ชมทัศนียภาพโดยรอบอ่างเก็บน้ำ และถ่ายภาพ หากโชคดีเจ้าหงส์สีขาวและดำก็จะว่ายน้ำอยู่ใกล้ๆ ยิ่งทำให้บรรยากาศที่โรแมนติกอยู่แล้วยิ่งโรแมนติกขึ้นไปอีก
ป่าสนเหมือนอยู่ต่างประเทศ
นักท่องเที่ยวที่สนใจมาเที่ยวปางอุ๋ง หากเดินทางมาจากเมืองแม่ฮ่องสอน มุ่งหน้าออกมาตามเส้นทางสู่จังหวัดเชียงใหม่ สังเกตป้ายบอกทางไปบ้านรวมไทย น้ำตกผาเสื่อ และพระตำหนักปางตอง เส้นทางจะชันขึ้นเรื่อยๆ ต้องขับขี่อย่างระมันระวัง ยิ่งเข้าใจโครงการเท่าไร เส้นทางก็จะยิ่งแคบชัน สภาพถนนไม่ค่อยดีค่ะ ขับรถระมัดระวังกันด้วย หากใครไม่ขับรถมาเอง จากตัวเมืองแม่ฮ่องสอนก็มีคิวรถไปปางอุ๋งอยู่บริเวณหน้าตลาดสายหยุดค่ะ
ล่องแพไม้ไผ่ชมความงามของทะเลสาบ
หากใครไม่อยากกางเต็นท์ ที่ปางอุ๋งมีที่พักหลากหลายรูปแบบให้เลือกค่ะ มีทั้งโฮมสเตย์ของชาวบ้านในพื้นที่ และบ้าพักของโครงการในพระราชดำริ มีให้เลือกหลายขนาด หลายราคาค่ะ คนชอบนอนเต็นท์ และนำเต้นมาเองเสียค่าธรรมเนียม ๑๐๐ บาท ใครไม่สะดวกนำมาเช่าเต็นท์ของโครงการมีค่าธรรมเนียม ๓๐๐ บาทต่อหนึ่งหลังค่ะ
แสงแดดกระทบผิวน้ำ
ตอนนี้ผ่านช่วงหน้าหนาวไปแล้ว อากาศร้อนเปรี้ยงทีเดียวนะคะ เอาเรื่องราวของสถานที่ท่องเที่ยวเย็นๆ มาฝาก แม้จะไม่ช่วยคลายร้อน แต่ก็หวังว่าจะช่วยให้เพื่อนๆ ตัดสินใจหาที่ท่องเที่ยวสำหรับหนาวต่อๆ ไปได้บ้างค่ะ
เรื่องและภาพโดย เลดี้ ดาริกา